แนวทางเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ทิ้งงาน แล้วก็ข้อแนะนำสำหรับในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน

[Joe524]

1. ตรวจเรื่องราวและดูผลงาน
จุดกำเนิดที่สำคัญที่สุดของการตามหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีนั้นเป็น การค้นหาและเลือกเฟ้นบริษัทรับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานแล้วก็มองน่าไว้ใจ ด้วยการตรวจประวัติความเป็นมาและก็มองผลงานการก่อสร้างที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณจะทดลองค้นหาชื่อบริษัทจากในอินเทอร์เน็ต หรือทดลองถามไถ่ประสบการณ์จากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ คุณก็จะได้ข้อมูลโดยประมาณก่อนจะเริ่มคุยเนื้อหากับผู้รับเหมาก่อสร้างที่น่าสนใจแล้วก็รู้สึกจะเข้าท่าจริงๆกับบ้านในฝันของคุณ

2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
หลังจากหาผู้รับเหมาก่อสร้างที่พึงพอใจได้สัก 2-3 รายแล้ว คุณจำต้องแจ้งเนื้อหาการก่อสร้างรวมทั้งขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง เพื่อทราบค่าการก่อสร้างทั้งสิ้นที่คุณจำเป็นต้องจ่าย ซึ่งบางทีอาจรวมถึงรายละเอียดและก็มาตรฐานของอุปกรณ์ที่ใช้ แล้วนำใบเสนอราคาทั้งผองมาเทียบก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งการเสนอราคาก็สามารถสะท้อนให้มองเห็นถึงมาตรฐานแนวทางการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้างได้ รวมทั้งคุณก็จะได้เลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีในราคาที่สมควรจากขั้นตอนนี้เอง

3. ควรมีสัญญาจ้างที่กระจ่าง
เมื่อพึงใจกับราคาที่บริษัทรับเหมาสร้างบ้านเสนอมาแล้ว ก็ได้เวลาของการตกลงว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพจะเป็นผู้เสนอสัญญาว่าจ้างให้ท่านเองเลยโดยไม่ต้องร้องขอ ซึ่งในคำสัญญาควรจะมีการเจาะจงถึงกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ การแบ่งชำระเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน มีเงื่อนไขการยืนยันงานก่อสร้าง รวมทั้งหากมีพาร์ตเนอร์ที่รับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาไม่ถนัด ก็จะต้องระบุในคำสัญญาด้วย



4. มีมาตรฐานสำหรับในการปฏิบัติงาน
แม้คุณจะพากเพียรหาผู้รับเหมาทำการก่อสร้างให้ดียังไง ในที่สุดมาตรฐานที่จริงจริงก็จะเห็นได้เมื่อเริ่มงาน โดยผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีมาตรฐานนั้นจำเป็นต้องวางแผนงานให้ท่านทราบอย่างเป็นระบบ ถ้าเป็นงานใหญ่จะต้องส่งวิศวกรหรือคนเขียนแบบของผู้รับเหมาก่อสร้างมาให้การดูแลถึงหน้างาน และที่จำเป็นมากเป็นเอกสารค่าครองชีพวัสดุ (Bill of Quantities หรือ BOQ) ที่บ่งบอกถึงถึงการใช้วัสดุและรายจ่ายระหว่างก่อสร้าง ซึ่งถ้าเกิดผู้รับเหมาก่อสร้างตกมาตรฐานไหนไป คุณจำเป็นต้องเรียกในทันทีอย่าได้ช้า

5. มีผู้ที่มีความชำนาญตรวจทานงาน
การตรวจทานงานไม่ใช่แค่คนรับเงินมาเดินเกาะติดคุณแล้วชี้ให้ดูโน่นนี่นั่นต่อจากนั้นก็จบ แต่คุณควรจะมีคนเขียนแบบหรือวิศวกรก่อสร้างที่มีความชำนิชำนาญมาร่วมตรวจ ซึ่งควรจะหาคนกลางมาเอง แต่ว่าถ้าหากหาไม่ได้ก็ควรจะมีวิศวกรฝั่งผู้รับเหมามาร่วมตรวจด้วย โดยบริษัทรับสร้างบ้านควรจะมีรายการตรวจทานงานอย่างแจ่มแจ้ง หากมีอะไรที่ผิดจากที่เคยตกลงกันไว้จำต้องพร้อมปรับแต่ง แล้วก็เมื่อตรวจดูจนกระทั่งมั่นใจว่าบ้านของคุณสมบูรณ์แบบแล้ว จึงค่อยชำระเงินงวดในที่สุดเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสิ้นการมอบงาน



การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับเพื่อการดำเนินโครงการสร้างบ้านที่ปลอดภัย และก็มีคุณภาพสูง
ด้วยเหตุผลดังกล่าว นี่คือ 10 คำแนะนำที่สามารถจะช่วยในกรรมวิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสม

1. ศึกษา รวมทั้งทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริษัท: ศึกษาเล่าเรียนข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทรับสร้างบ้านที่คุณพึงพอใจ ซึ่งรวมทั้งประวัติความเป็นมาของบริษัท แล้วก็ผลงานที่เคยทำมาก่อนหน้า
นอกเหนือจากนั้นคุณยังสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้าก่อนหน้านี้เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทมีความน่านับถือ รวมทั้งมีความเข้าใจในการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ตรวจตราความถูกต้องทางกฎหมาย: พิจารณาว่าบริษัทมีเอกสารสิทธิ์ รวมทั้งการจดทะเบียนที่ถูกกฎหมายเพื่อมั่นใจว่าคุณได้ทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกต้อง แล้วก็เป็นธรรม



3. ดู และก็เปรียบราคา: ขอใบเสนอราคาจากบริษัทที่คุณพินิจ แต่ว่าอย่าตีราคาให้เป็นเพียงส่วนประกอบเดียวสำหรับเพื่อการตัดสินใจ เปรียบเทียบราคาพร้อมกับคุณภาพ และบริการที่จะได้รับ

4. ตรวจสอบเรื่องราวทำงาน: ดูผลงานที่เคยทำของบริษัทรับสร้างบ้านในสมัยก่อน ดูรูปถ่าย หรือเยี่ยมชมสถานที่โดยตรง เพื่อให้คุณได้ใคร่ครวญคุณภาพของงานจากบริษัทที่มีประสบการณ์สำหรับการปฏิบัติการ



5. ถาม และสร้างเสริมความมั่นใจ: ติดต่อกับบริษัทเพื่อไต่ถามรายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ ควรจะถามเรื่องช่วงเวลาสำหรับในการดำเนินแผนการ การสื่อสาร รวมทั้งการจัดการปัญหา คุณควรจะรู้ว่าบริษัทนั้นพร้อมจะให้การช่วยเหลือ และก็ข้อเสนอแนะที่ดีตลอดแนวทางการก่อสร้าง

6. ความเชี่ยวชาญในด้านที่คุณพอใจ: พิจารณาความชำนาญของบริษัทรับสร้างบ้านในด้านที่คุณอยาก อาจเป็นการก่อสร้างบ้านฐานรากในนานาประการขนาดบ้าน เลือกบริษัทที่มีความชำนิชำนาญ และก็ประสบการณ์ที่เกี่ยวพันเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ปรารถนา



7. คุณภาพอุปกรณ์ แล้วก็เทคโนโลยี: ถามไถ่ว่าบริษัทใช้วัสดุ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานหรือไม่ การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ได้รับสินค้าที่ทน รวมทั้งคงทนต่อการใช้งานในระยะยาว

8. ช่วงเวลา รวมทั้งการส่งมอบ: ไต่ถามเกี่ยวกับระยะเวลาที่บริษัทรับสร้างบ้านสามารถสร้างบ้านให้เสร็จสิ้น และก็การส่งมอบงานภายในเวลาที่ระบุ



9. การยืนยันประสิทธิภาพ: ไต่ถามเกี่ยวกับการรับประกันประสิทธิภาพของงาน ว่าบริษัทมีการค้ำประกันคุณภาพงานสร้างบ้านข้างหลังการส่งไหม และระยะเวลาการรับรองเป็นเท่าใด

10. การตรวจดูเอกสาร รวมทั้งสัญญา: วิเคราะห์เนื้อหาในสัญญารับเหมาก่อสร้างที่จำต้องทำกับบริษัทรับสร้างบ้าน รวมทั้งอ่านเอกสารให้รู้เรื่องให้ดีก่อนจะลงชื่อในข้อตกลง หากมีคำถามหรือไม่รู้เรื่อง ควรจะไต่ถาม รวมทั้งสนทนากับบริษัทรับสร้างบ้านให้เข้าใจถูกตรงกันทั้งสองฝ่าย



สรุป การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนการที่ต้องใช้เวลา และก็ความละเอียดถี่ถ้วน เนื่องด้วยการสร้างบ้านเป็นโครงการที่ใช้เวลานาน และมีความจำเป็น
ด้วยเหตุนี้คุณควรทำการค้นคว้า แล้วก็การวิเคราะห์อย่างประณีต เพื่อคุณสามารถเลือกบริษัทที่เหมาะสม และมีคุณภาพที่สุดสำหรับในการสร้างบ้านของคุณเอง
โดยควรจะใช้เวลาสำหรับเพื่อการวิเคราะห์ และประเมินตัวเลือกที่มีอยู่ พร้อมกระทำเทียบสิ่งที่คุณอยากให้ครบบริบรูณ์เยอะที่สุด และก็เลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ากันได้กับสิ่งที่ต้องการ และความคาดหมายของคุณ
อย่าลืมสำรวจข้อตกลงที่เจาะจงข้อจำกัด และรายละเอียดต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าคุณรู้เรื่อง และก็สารภาพข้อจำกัดทั้งผองก่อนจะลงนาม
การมีสัญญาที่แน่ชัด เป็นสิ่งจำเป็นที่จะสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่น และก็ป้องกันปัญหาในอนาคต